21 ก.พ. 2553
ใบงานที่ 14 จุดเด่นจุดด้วยและข้อเสนอแนะในการใช้ web blog
ใบงานที่ 14 จุดเด่นจุดด้วยและข้อเสนอแนะในการใช้ web blog และ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Blogspot
กับ Gotoknow
http://gotoknow.org/blog/watim
1. จุดเด่นจุดด้วยและข้อเสนอแนะในการใช้ web blog
1.1 จุดเด่น
1.1.1 มีความน่าสนใจ รูปแบบ สวยงาม จูงใจให้อยากเรียนรู้
1.1.2 ทำให้ระบบการสื่อสารข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1.1.3 เป็นระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย
1.1.4 ใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนส่งเสริมการจัดการศึกษาได้ดี
1.1.5 มีความล้ำสมัยทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
1.1.6 เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่ดีเยี่ยม
1.1.7 ได้สนทนากับเพื่อสมาชิกหลากหลาย
1.2 จุดด้อย
1.2.1 โดยภาพรวมแล้วจุดด้อยไม่มี เนื่องจากมีแต่ประโยชน์ในการสนับสนุนการบริหารจัดการศึกษา
1.3 ข้อเสนอแนะ
1.3.1 ควรให้มีการใช้ webblog ในการนำเสนอการจัดการความรู้ทุก ๆ วิชาที่เรียน
2. เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Blogspot กับ Gotoknow
Blogspot
1. การเข้า เว็บ จะง่ายกว่า
2. แก้ไขเพิ่มบทความได้สะดวก
3. การใส่รูปภาพและลิงก์ถึงกันได้ดีรวดเร็ว
4. การเปิดโชว์ข้อความจะโชว์ให้ทั้งหมด
5. เปิดโอกาสให้มีการติชมข้อความ บทความผู้อื่นได้ไม่มีการปิดกั้น
6. พื้นหลังของบล็อกสามารถเลือกได้หลายรูปแบบตามความชอบใจ มีแบบสวยงาม
7. สามารถนำภาพต่าง ๆ มาใส่ให้สวยงามและสะดุดตาไม่เบื่อ เช่น ภาพเคลื่อนไหว ภาพปฏิทิน นาฬิกา ไสลค์ และวีดีโอ
8. ประวัติ Blog ไม่ชัดเจน
9. ชื่อ Web จำได้ง่ายและสั้น
Gotoknow
1. การเข้า Web ยากกว่า
2. การเข้าไปแก้ไขบทความหลายขั้นตอนกว่า
3. ใส่รูปภาพถึงกันได้ เช่นเดียวกัน
4. จะมีการปิดกั้นผู้อื่นเข้าชมได้ตามความประสงค์ของเจ้าของ บล็อก
5. การโชว์ข้อความไม่หมดต้องเปิดดูต่อ
6. พื้นหลังของบล็อกไม่หลากหลาย ม่มีให้เลือก
7. สามารถใส่ภาพได้เช่นกันแต่ไม่สะดุด และไม่หลากหลาย
8. ประวัติบล็อกชัดเจน
9. ชื่อ Web ยาว และจำยาก
kkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkk
27 ม.ค. 2553
ใบงานที่ 13 ศึกษาดูงานประเทศลาว. โรงเรียนอนุบาลหนองคาย.หมู่บ้านงูจงอาง , เชื่อนแก่งกระจาน
ใบงานที่ 13
1. การศึกษาดูงานที่โรงเรียนอนุบาลหนองคาย
ทำให้ได้รับความรู้ ดังนี้
1.1 ทำให้ทราบว่าโรงเรียนอนุบาลหนองคาย เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ อยู่ในสังกัดของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองคาย เขต 1 และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งโรงเรียนอนุบาลหนองคาย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2510 สังกัดกองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา เดิมตั้งอยู่ที่ ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย มีเนื้อที่ 8 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2530 ได้ย้ายออกมาตั้งอยู่บริเวณศูนย์ราชการเลขที่ 239 ม.1 บ้านดอนดู่ ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 มีเนื้อที่ทั้งหมด 23 ไร่ ทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีจำนวน 49 ห้องเรียน
มีนักเรียนทั้งหมด 2002 คน ครู....89.........คน ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อ นายสัมฤทธิ์ เจริญดี
มีรองผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 3 คน ได้แก่
1. ว่าที่ พ.ต.พิฑูรย์ พิลาวัลย์
2. นายศุภกฤต สีหไตร
3. นายสมชาย ปัญญาทิพย์
วิสัยทัศน์
พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี ไทย คณิต วิทย์ อังกฤษก้าวหน้า มีความเป็นเลิศทางปัญญา
รักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมพลานามัยแข็งแรง สามารถแข่งขัน
ก้าวทันเทคโนโลยี เน้นประเพณีความเป็นไทย
ก้าวไกลด้วยศิลปะ มีธรรมะมั่นคง ดำรงชีวิตอย่างมีความสุข (ภายในปี 2550)
พันธกิจ
1. จัดการเรียนรู้ให้มีความเป็นเลิศด้านภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
คอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
2. จัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อในการแสวงหาความรู้
จากข่าวสาร สารสนเทศต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์
3. จัดการเรียนรู้ทั้งที่เป็นสากลและท้องถิ่นตามระบบ ประเพณีและวัฒนธรรมไทย
และฝึกให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม เป็นคนดีในสังคมอย่างมีความสุข
………………………………………………………………………………………………………
2. การศึกษาดูงานในประเทศลาวทำให้ได้แนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศลาว ดังนี้
จากการได้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศลาว เริ่มตั้งแต่ได้เข้าไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็มีความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ว่าเขาจะมีพิธีรีตองอะไรมากหรือเปล่า แต่เมื่อถึงเวลาจริง ๆ ก็เบาใจเพราะทางผู้จัดการทัวร์ได้ประสานงานไว้ให้ก่อนแล้ว จึงได้รับความสะดวก
มติแรกที่สัมผัส เริ่มก้าวเท้าขึ้นรถ เห็นคนขับนั่งทางด้านซ้าย พวงมาลัยอยู่ทางซ้าย เราต้องเดินขึ้นรถประตูด้านขวา รถวิ่งเลนขวา แซงทางขวา ที่วงเวียนไม่ต้องอ้อม เลี้ยวตัดวงในไปเลย เผลอต้องเอี้ยวตัวหลบไปด้วย ได้ยินเสียงเพื่อนบางคนก็ส่งเสียงเฮ้ยๆๆๆ ไม่ชินกับวัฒนธรรมของเขา เพิ่งจะรู้ว่า “ไฟแดง เขาเรียก ไฟอำนาจ” “ ไฟเหลือง เขาเรียก ไฟเจียมตน” “ ไฟเขียว เขาเรียก ไฟเสรี ”
ต่อมาก็ได้ได้สัมผัสกับไกค์ ผู้ชาย ก็นึกชมในใจว่าเขาก็เก่งเหมือนกันนะพูดจาได้คล่องแคล่วเสริมมุกตลก ให้พวกเราคลายเครียด และสร้างความมั่นใจให้กับพวกเรา และในเวลาต่อมา ไกค์ผู้หญิง ก็ขึ้นมาบนรถ ก็พยายามสังเกตบุคลิกกรยาท่าทาง รวมทั้งวิธีการในการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ก็นึกชมในใจว่า ลาวเขาก็เก่งเหมือนกัยนะที่ผลิตบุคลากรด้านนี้ออกมามีคุณภาพพอสมควร
สังเกตุสภาพภูมิประเทศ และความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนภาคใต้ เพราะบริบทของเขาดูแล้วแห้งแล้งกันดาร มากกว่าบ้านเรา ทุ่งนาดูหญ้าแห้งๆๆ เกรียม ผิดกับบ้านเรามองไปทางไหนก็เขียวชะอุ่ม ตึกรามบ้านช่องก็ดูเก่าแก่ ไม่ค่อยมีบ้านจัดสรรเหมือนบ้านเรา โรงแรมใหญ่ ๆ และ คอนโดมิเนี่ยม ก็ไม่เห็น สภาพเมืองหลวงนครเวียงจันทน์ ก็คงจะใกล้เคียงกับจังหวัดนครศรีธรรมราช ของเรา ศูนย์การค้าก็ไม่ใหญ่มากนัก เทียบกับมาบุญครองไม่ได้
มหาวิทยาลัยระดับที่ได้มาตรฐานแต่ก็น้อยกว่าของไทยก็มีเพียง 3 มหาวิทยาลัย เท่านั้น ซึ่งผิดกับบ้านเรามีเป็นร้อย เลือกเรียนกันตามศักยภาพ การปกครอง ดูแล้วก็เป็นสังคมนิยม ไม่เป็นประชาธิปไตยเหมือนของเรา เพราะมีพรรคการเมืองพรรคเดียว และผู้นำรัฐบาลเป็นผู้มีอำนาจในการกำหนดนโยบายสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว แต่สิ่งที่คิดอยู่ก็คือทำไมสินค้าปลอดภาษี หรือว่าร้านขายของราคาถูกทำไมไม่เปิดในฝั่งไทยเสียเลย เงินตราจะได้ไม่รั่วไหลไปต่างประเทศ ทำไมเราต้องไปซื้อโทรศัพท์ถึงฝั่งโน้น เรามาเปิดร้านขายเองในฝั่งไทยไม่ได้หรือ
อ้าวทีนี้มาเน้นวิชาการบ้างนะ
ประเทศลาว มีชื่อเต็มว่า สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทิศเหนือติดกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ทิศใต้ติดกกับประเทศราชอาณาจักรกัมพูชา ทิศตะวันออก ติดกับ ประเทศสังคมนิยมเวียดนาม ทิศตะวันตกต้อกับประเทศไทย ความยาวของประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้ ยาวประมาณ 1,730 กิโลเมตร
ภูมิประเทศ ประเทศลาวมีพื้นที่ 236,800 ตารางกิโลเมตร
ประชากรทั้งประเทศ ประมาณ 7 ล้านคน ประกอบด้วยคน 3 ชนชาติ รวม 68 เผ่า ได้แก่ - ลาวลุ่ม ลาวเทิง ลาวสูง เป็นต้น
สกุลเงินของลาว คือ กีบ ที่ใช้กับแพร่หลายแบ่งออกเป็นใบละ 1,000 กีบ 2,000 กีบ, 5,000 กีบ, 10,000 กีบ และ 20,000 กีบ (ไม่มีเงินที่เป็นลักษณะเหรียณกษาปณ์)
ศาสนา ประชาชนลาวนับถือศาสนาพุทธ ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ มีเสรีภาพในการเลือกนับถือศาสนา ตามประเพณีลาวหนุ่มลาวที่มีอายุ 20 ปี จะเข้าบวชเป็นพระระยะหนึ่งเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่
การปกครอง ประเทศลาวแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 17 แขวง (จังหวัด) และอีก 1 เขตปกครองพิเศษ ได้แก่ 1. นครเวียงจันทน์ (เป็นเขตปกครองพิเศษแบบกรุงเทพฯ) 2. แขวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงคือเวียงจันทน์ 3. แขวงหลวงพระบาง เมืองหลวงคือหลวงพระบาง 4. แขวงหลวงน้ำทา 5. แขวงอุดมไชย 6.แขวงบ่อแก้ว 7. แขวงพงสาลี 8. แขวงหัวฝัน 9. แขวงเชียงขวาง 10. แขวงไชยบุรี 11. แขวงบริคำชัย 12. แขวงคำม่วน 13. แขวงสะหวันนะเขต 14. แขวงสาละวัน 15. แขวงเซกอง 16. แขวงจำปาศักดิ์ 17. แขวงอัตปือ และเขตปกครองพิเศษคือ ไชยสมบูรณ์
..................................................................................................................................................................
3. ศึกษาดูงานหมู่บ้านงูจงอางได้รับความรู้ ดังนี้
เริ่มเข้าสู่หมู่บ้านงูจงอาง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีการโชว์ชกมวยคนกับงูจงอาง แต่ละปีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก นำเงินรายได้มาสู่หมู่บ้านปีละหลายล้านบาท มีการประชาสัมพันธ์ลงเว็ปไซค์ไปทั่วโลก ตอนนั่งในรถก็คิดว่าคงจะอลังการ เหมือนกับที่วอร์เตอร์เวิลด์ ที่พัทยา แต่พอรถไปถึง พร้อมทั้งมองดูบริบทรอบๆ ก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นไปดังคิด ดูแล้วเฉา ๆ ไม่อลังการอะไร เพียงแต่พบวิถีชีวิตของผู้คนชนบท ทำนาเป็นอาชีพ เดิมที่นั่นคงจะมีงูเห่า งูจงอางมาก จึงทำให้ผู้คนตุ้นเคยกับงู จนสามารถอยู่ร่วมกันได้ และในวันหนึ่งก็ได้กลายมาเป็นอาชีพที่ทำเงินให้กับพวกเขา นำมาพัฒนาหมู่บ้าน
ประวัติบ้านโคกสง่า และการเล่นงูจงอาง
หมู่บ้านโคกสง่า ก่อตั้งเมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมา เริ่มมีผู้ใหญ่บ้านคนแรกในปี พ.ศ.2469 มีลูกบ้านประมาณ 800 คน (พ.ศ.2541) ชาวบ้านมีอาชีพทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่
การเดินทางหมู่บ้านโคกสง่าหรือหมู่บ้านงูจงอาง ตั้งอยู่ตำบลทรายมูล อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร จากเมืองขอนแก่น ใช้เส้นทาง ถนนมิตรภาพ (เส้นทางหมายเลข 2 สายขอนแก่น-อุดรธานี) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 33 เลี้ยวขวาทางไปอำเภอกระนวน ถนนหมายเลข 2039 (น้ำพอง-กระนวน) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 14 (ระยะทาง 14 กม.) สังเกตเห็นป้อมตำรวจพังทุยอยู่ด้านซ้ายมือ ด้านขวามือจะมองเห็นป้ายหมู่บ้านงูจงอางเลี้ยวขวาไปตามถนนเข้าไปประมาณ 1.2 กม. ผ่านวัดสระแก้ว บ้านนางาม ถัดจากวัดจะเป็นสี่แยก ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน เลี้ยวซ้ายไป 600 เมตร ถึงบ้านโคกสง่าตรงไปที่วัดศรีธรรมา ซึ่งเป็นที่ตั้งเรือนเพาะพันธุ์งูจงอาง และสถานที่จัดแสดงงูจงอาง การเล่นงูของชาวบ้านโคกสง่าเริ่มเมื่อปี พ.ศ.2494 โดยพ่อใหญ่เคน ยงลา ประกอบอาชีพหมอยา เดินทางไปขายยาสมุนไพรตามหมู่บ้านต่างๆ ต่อมาผู้ใหญ่เคน ได้คิดริเริ่มจับงูเห่ามาแสดงเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้คนมารวมกัน การแสดงครั้งนั้นประสบความสำเร็จมาก ทำให้ไม่ต้องเดินขายยาทุกหลังคาเรือนเช่นเดิมอีก แต่เนื่องจาก งูเห่าสามารถพ่นพิษใส่ตาผู้แสดงได้ ในระยะห่าง 2 เมตร ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้แสดงหรือผู้ชมได้ พ่อใหญ่จึงเปลี่ยนมาใช้งูจงอางแทน และได้ถ่ายทอดวิชาให้กับเพื่อนๆ ตลอดจนลูกหลานในหมู่บ้าน ซึ่งก็ได้เดินทางเร่แสดงงูขายสมุนไพร เพื่อเป็นอาชีพเสริมหารายได้นอกเหนือ จากอาชีพเกษตรกรรม ตามอย่างผู้ใหญ่เคน ทำให้ชื่อเสียงการเล่นงูของหมู่บ้านโคกสง่าแพร่ขยายออกไป การแสดงงูจงอางบ้านโคกสง่าเป็นที่รู้จักแพร่หลายมาก ชาวบ้านโคกสง่าเกือบทุกหลังคาเรือนจะเลี้ยงงูจงอางไว้ใต้ถุนบ้านของตน ได้จัดการแสดงงูจงอาง หลายรูปแบบเพื่อดึงดูดให้คนสนใจยิ่งขึ้น เช่น การชกมวยระหว่างคนกับงูจงอาง ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง จนชาวบ้านที่มีชื่อเสียงทางการแสดงงูมีฉายาประจำ
……………………………………………………………..
4. ศึกษาดูงานที่แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้รับความรู้ดังนี้
เขื่อนแก่งกระจาน เป็นเขื่อนดินกั้นแม่น้ำเพชรบุรี ที่บริเวณเขาเจ้า และเขาไม้รวกประชิดกับ ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี อยู่ทางด้านเหนือน้ำ ของเขื่อนเพชรขึ้นไปตามถนน 27 กิโลเมตร สันเขื่อนยาว 760 เมตร กว้าง 8 เมตร สูง 58 เมตร ระดับสันเขื่อน 106 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ฐานตอนที่กว้างที่สุด 250 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2509 เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
เขื่อนแก่งกระจาน อยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี 53 กิโลเมตร และห่างจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 3 กิโลเมตร เดินทางตามเส้นทางเดียวกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
• ตั้งแต่ปากอ่าวเพชรบุรี จนถึงหัวหินให้หมดไป และช่วยบรรเทาอุทกภัย ในทุ่งเพชรบุรีด้วย
ลักษณะของเขื่อน
เขื่อนแก่งกระจาน สร้างปิดกั้น แม่น้ำเพชร ที่บริเวณ เขาเจ้า และเขาไม้รวก ประชิดกัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เขื่อนนี้ อยู่ทางด้านเหนือน้ำ ของเขื่อนเพชร ขึ้นไปตามแนวถนน ๒๗ กิโลเมตร นอกจาก ตัวเขื่อน ยังมีเขื่อนดิน ปิดเขาต่ำ ทางขวาง ของเขื่อนอีก ๒ แห่ง คือ แห่งแรกสูง ๓๖ เมตร สันเขื่อนยาว ๓๐๕ เมตร แห่งที่ ๒ สูง ๒๔ เมตร สันเขื่อนยาว ๒๕๕ เมตร
ประโยชน์
เขื่อนแก่งกระจาน เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ ประโยชน์ที่ได้ จากเขื่อนนี้ มีหลายประการ คือ
๑. เขื่อนแก่งกระจานสามารถผลิต กระแสไฟฟ้าฟ้า ๑๙,๐๐๐ กิโลวัตต์ ให้พลังงานเฉลี่ย ปีละ ๗๐ ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
๒. สามารถขยายเนื้อที่ชลประทาน ของโครงการเพชรบุรี ซึ่งเดิมมีอยู่จำนวน ๒๑๔,๐๐๐ ไร่ เพิ่มเป็น ๓๓๖,๐๐๐ ไร่ และเพื่อการเพาะปลูกในฤดูแล้ง ได้ ๑๗๔,๐๐๐ ไร่ อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหา การขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ตั้งแต่ปากอ่าวเพชรบุรี จนถึงหัวหินให้หมดไป และช่วย บรรเทาอุทกภัยในทุ่งเพชรบุรี
๓. เป็นแหล่งส่งเสริมการประมง
๔. เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีทิวทัศน์สวยงาม อีกแห่งหนึ่งของประเทศ
สำหรับเกรดที่อาจารย์ให้แสดงความจำนงว่า อยากได้เกรดอะไรนั้น กระผมขอเรียนด้วยความเคารพว่า ขอเกรด 4 ครับ
เนื่องจากผมตั้งใจสุดความสามารถแล้วครับ ทุกๆ บทความทำด้วยตนเองทั้งสิ้น ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
…………………………………………………………………………………….
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)